ไก่ชน กีฬาพื้นบ้านนิยมการชนไก่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวร
ไก่ชน ประวัติไก่ชนนั้นมีมาตั้งแต่ สมัยสมเด็จพระนเรศวร ซึ่งเป็นที่นิยม ไก่ชนตีกัน การตีไก่เป็นกีฬาที่อยู่ ในวังและนิยมกันอย่างกว้างขวาง ในจังหวัดพม่าซึ่งมีการถ้าให้มีการตีไก่เป็นกีฬาในวัง ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของพระนเรศวร ตามตำราแล้วเชื่อว่าการชนไก่ นั้นมีอยู่มาอย่างยาวนาน ซึ่งพระนเรศวรนั้นจะหาลักษณะไก่ที่มีสายพันธุ์ดีและมีชื่อเสียง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างมากคือพันธุ์เหลืองหางขาว ซึ่งไก่เหลืองหางขาวนั้น ในพื้นที่จะมีการชนไก่มักจะเอาขึ้นสังเวียนและไก่พันธุ์นี้จะได้ครอบครองการเป็นนักเลงไก่อยู่ตลอดเวลา ทำให้มีชื่อเสียงลักษณะเด่นใน การที่จะสามารถประลองฝีมือในความเชื่อ นั้นจะสามารถเป็นฝ่ายชนะ
ซึ่งตามตำราแล้ว จะนิยมนำไก่ชนนั้นเป็นไก่พื้นบ้าน ที่มีมาแต่สมัยโบราณสมัยสุโขทัย จนถึงปัจจุบันซึ่งเห็นได้ ชัดว่าเป็นไก่ที่สามารถเอาชนะพม่าได้ซึ่งปัจจุบันการเลี้ยงไก่ชนนั้นจึงเป็นที่นิยม และแพร่หลายเป็นอย่างมากในประเทศจะมีไก่ที่เลี้ยงนั้นมากมาย หลายสายพันธุ์ด้วยกัน ซึ่งการเลี้ยงไก่ชนให้เป็นเกมกีฬาหรือการเล่นไก่เป็นเกณฑ์ ที่ค้นพบว่าได้เป็นเกมที่สามารถชนประจำ และเป็นที่นิยมมาในประเทศอังกฤษ ซึ่งประเทศที่ผสมพันธุ์ไก่ชน และฝึกตีจนกลายเป็นการค้าขายหรืออุตสาหกรรม นั้นเริ่มต้นจากชาวอังกฤษได้อพยพ
และมาตั้งถิ่นฐานนำเกม กีฬาไก่ชนนั้น มาเล่นให้เป็นการกีฬาอีกชนิดหนึ่ง แต่ประเทศอเมริกานั้นได้ถือเป็นกฎหมาย ห้ามชนไก่เพราะเป็นการทารุณกรรมสัตว์แต่อย่างไรก็ตามสำหรับประเทศไทย นั้นชาวไร่ชาวนา เมื่อมีการทำนาเสร็จแล้วก็จะมาเดิมพัน กับกีฬาชนไก่ซึ่งเป็นเกมกีฬา ยามว่างแต่ละตำบลก็จะมีบ่อนไก่ไว้สำหรับชนการชนไก่นั้น เป็นที่นิยมแพร่หลายในกีฬา ของผู้ชายในชนบท หลังจากนั้นก็จะนำไก่มาฝึกชั้นเชิง และนำมาขยายพันธุ์ พร้อมทั้งมีการต่อสู้และนำลงไปสู่สนามซึ่งเกมส์กีฬาประเภทนี้ เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ไก่ชน
เพื่อเป็นอาหารและขยายพันธุ์ ให้มากขึ้นโดยเฉพาะไก่ที่มีคุณสมบัติ ที่สามารถจะแย่งผสมพันธุ์กับตัวเมีย ซึ่งไก่ตัวผู้ที่จะมีนิสัยในการแข่งขัน และนำไก่พวกนี้มาพัฒนาสายพันธุ์ และวิวัฒนาการให้เป็น ไก่ชนพันธุ์พื้นเมืองไก่ชนในพื้นเมืองไทย นี้ในอดีตแล้วเป็นพันธุ์ไก่ชนที่ตกทอด จากมรดกของกรุงสุโขทัยได้มีการผสมพันธุ์มาและนิยมเลี้ยงไก่ชน ไก่ชนเหลืองหางขาว เพื่อไว้เป็นไก่นำโชคหรือไก่เจ้าเลี้ยง
ซึ่งตระกูลของไก่นั้นเป็นสัตว์ มีปีกจะมีลักษณะคล้ายนกมีแบบยื่น ออกมาปลายปีกมีกระดูกหางยาวเป็น ลักษณะของสัตว์เลื้อยคลาน ปัจจุบันนั้นได้มีการสืบพันธุ์และพัฒนาให้มีรูปร่างของสีหรืออุปนิสัย ในการที่จะเป็นนักต่อสู้ซึ่งการชนไก่ นั้นเป็นวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี ที่มีความเชื่อกันมาใน อดีตแล้วนำมาพัฒนาให้เป็นเกม การแข่งขันชนไก่ในปัจจุบัน
เว็บไก่ชน เป็นเว็บที่ได้รับข้อมูลข่าวสาร ไก่ชนล่าสุด เพื่อเป็นการอนุรักษณ์ประเพณีและวัฒนธรรมไทย
ไก่ชนล่าสุด ไก่ชนนั้นเป็นไก่สายพันธุ์พื้นเมือง ซึ่งมีลักษณะอยู่ 2 ประเภทซึ่งจะสามารถเลี้ยงไว้ เพื่อความสวยงาม ไก่ชนไก่เชิง และนำมาประกวด ส่วนการเลี้ยงไว้เพื่อการบริโภคเป็นเนื้ออาหารนั้น ก็สามารถนำมาฆ่าซึ่งไก่ชนเป็นไก่ ที่อยู่ในสังคมชนชั้นสูงมาตั้งแต่ สมัยโบราณเป็นสัตว์ที่มีความผูกพันมาแต่ในอดีตและในประวัติศาสตร์ก็มีการเลี้ยงไก่ชนตามวิถีชีวิตของคนชนบท ไก่ชนนั้นเป็นแหล่งอาหารของคน ที่นำมาเลี้ยงซึ่งเป็นวิถีชีวิตประจำวัน ในสังคมในการทำเกษตรกรรมที่เชื่อว่าเกมกีฬาไก่ชนนั้นเป็นกีฬาที่สามารถ นำมาเดิมพันแข่งขันได้เช่นเดียวกับ กีฬาชนวัวและเกมกีฬาปลากัด
สายพันธุ์ไก่ชนมีลักษณะดังนี้
ถึงแม้การชนไก่นั้นจะมีอยู่ในประวัติศาสตร์ มาอย่างยาวนานแต่ยังคงหวงแหน ให้เป็นวัฒนธรรมและเป็นมรดก ของคนในอดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งปรากฏอยู่ในเรื่องราวของไก่ชนที่นิยมนำมาประกวด หรือต่อสู้ให้เป็นไก่สายพันธุ์พื้นเมืองต่าง ๆ ในภูมิภาคแทบจะทั่วโลก และทั่วประเทศที่นิยมเลี้ยงไก่ชน อยู่ในเอเชียนั้นได้แก่ ประเทศลาว กัมพูชา ไทย พม่า มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งแม้ว่าการนิยมเกมกีฬาชนไก่ นั้นจะเป็นสมัยโบราณจน ถึงปัจจุบันก็มีความเชื่อที่นิยมในความแพร่หลายที่จะเลี้ยงไก่ชน หลายประเภทเพราะไก่ชน นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน และเป็นพิพิธภัณฑ์ของประวัติศาสตร์
เพื่อประโยชน์และการขยายการเลี้ยงไก่ชน ในอุตแบบอุตสาหกรรมหรือฟาร์ม ซึ่งสามารถเป็นธุรกิจส่งออกได้ ไก่ชน เป็นมรดกของประเทศไทยที่มีมาแต่สมัยโบราณมีหลากหลายสายพันธุ์ และที่สำคัญในการเลี้ยงพันธุ์หางดำ เหลืองหางขาวและไก่พ่อขุน เนื่องจากเป็นไก่ที่สามารถเอาชนะในการที่แข่งขันกับคู่ต่อสู้และนิยมเลี้ยงเพื่อไว้เป็นไก่นำโชคหรือเป็นสัตว์ที่มีสีสัน และรูปร่างที่สวยงามสามารถจัดเอาไปประกวดได้ จึงทำให้เป็นที่นิยมเลี้ยงไก่สายพันธุ์ นี้เป็นอย่างมาก ประเทศไทยนั้นจะอยู่ใกล้ กับประเทศอินเดีย
ซึ่งจะมีขนบธรรมเนียม ประเพณีความเชื่อและวัฒนธรรมต่าง ๆ รวมทั้งยังเป็นที่นิยมในการนำไก่ชน มาเลี้ยงเหมือนกันซึ่งก่อน ที่จะเข้ามาเป็นไก่ชนเนื่องจากอินเดียนั้นได้หินสมเด็จ พระนเรศวรได้ทรงใช้ไก่ชนนั้น ใช้ในทางการเมืองในประเทศอินเดีย ที่เสียเอกราชให้กับประเทศอังกฤษ จึงทำให้ไก่ชนของคนไทยนั้นเป็นไก่ชนพันธุ์อินเดีย ที่เข้ามาพร้อมกับวัฒนธรรมและศาสนาไก่ชน ที่เป็นไก่ชั้นเชิงเป็นไก่ที่สามารถมี 2 ขนาด ซึ่งเป็นขนาดใหญ่ และขนาดกลาง จะนิยมนำมาต่อสู้เป็นเกมกีฬาพื้นบ้าน ที่สามารถมีการเล่นมา ตั้งแต่สมัยโบราณและเป็นการเดิมพันเงินค่อนข้างสูง
และผู้ที่สนใจในพันธุ์ไก่ชน ที่จะนำไปสร้างเป็นธุรกิจ หรือหารายได้นั้นจะต้องเลี้ยง เพื่อนำไปขายจึงยึดสายพันธุ์ไก่ชน ที่สามารถเลี้ยงเป็นอาชีพ ได้โดยทำให้มีรายได้ในการเพาะเลี้ยงให้ได้เพิ่มมากขึ้นไก่ชนตัวหนึ่งนั้น จะมีรายได้ประมาณ 500 ถึง 600 บาทซึ่งราคาของไก่ชนนี้ จะเป็นไปตามความเก่งของไก่และลักษณะของไก่ชนที่มีความสง่างามเช่น หัวเล็กปากแหลม ตาเรียว น้ำคนดี ขาใหญ่ ท่ายืนจะต้องมีความสง่างาม ชื่อเสียงของไก่ชนที่จังหวัดตราดนั้นเป็นไก่ชนที่มีความเก่งกาจในทั่วประเทศ
ซึ่งนิยมเลี้ยงอยู่ 2 สายพันธุ์ เป็นสีเหลืองหางขาว และประดู่หางดำ ซึ่งการันตีได้เลยว่าไก่ชนที่มีความชั้นยอดจากท่าพริกนี้จะมีความเก่ง และมีชั้นเชิงในการต่อสู้ชนิดว่าที่ไม่มีใครเอาชนะ และเป็นที่หนึ่งได้ การที่นำไก่ชน 2 ตัวมาตีกันนั้นและจะตีไปเรื่อยๆ จนมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะจะไม่มี การพักยกหรือให้น้ำไก่ไม่มีการพันเดือยและแพ้เมื่อไหร่ ก็เลิกชวนทันทีซึ่งการเดิมพัน ชนิดนี้เป็นกฎกติกาของไก่ชน ที่ไม่มีรายละเอียดอะไรมากมาย แต่การชนไก่นั้นจะทำให้มีคนผู้รู้จักและนิยมกันมากขึ้นซึ่งกฎกติกาต่าง ๆ จะมีการพัฒนาตามลำดับและมีการจับเวลา
โดยนำกะลามะพร้าว หรือขันเจาะรูมาลอยน้ำ ในภาชนะไม่ว่าจะเป็นโอ่งน้ำตรงน้ำ หรือกะละมังตามที่หาได้จากท้องถิ่นก็ จะนำมาลอยน้ำถ้าคันจงหรือกระจงเมื่อไหร่ก็หมดเวลาในการชนทันที ซึ่งกะลามะพร้าวหรือคันน้ำจงเรียกว่าหมด 1 อัน มีการพักยกให้ไก่ได้พักแล้วรู้สึก ว่าการให้น้ำไก่ในช่วงพักยกเมื่อเช้าและขาดลอยในน้ำเช่นเดียวกัน และจมอีกครั้งเป็นการหมดเวลา ซึ่งการพักในการสลับไปมาในการชน ขึ้นอยู่ว่าไก่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงกัน ซึ่งเป็นกฎกติกาที่มีมาแต่สมัยโบราณต่อมามีการพัฒนาสมัย ยุคปัจจุบันนั้นกติกาการชนไก่ ในสนามจะมีการพัฒนาไป ซึ่งการชนไก่นั้นจะคล้าย ๆ สำหรับการชกมวยในวงไก่ชนเป็นที่นิยมเรียกกันว่า อัน
การชนไก่แบ่งเป็น 2 ประเภทได้ดังนี้คือ
1.การแข่งขันชนไก่ แบบสมัครเล่น
ซึ่งการแข่งขันชนไก่แบบสมัครเล่นนี้ จะเล่นในวันเสาร์อาทิตย์ตั้งแต่ 08:00 น เป็นต้นไปจะหยุดแข่งขันในวันพระและวันนักขัตฤกษ์ ซึ่งมีกฎกติกาการแข่งขันดังนี้
- มีการทำประวัติสายพันธุ์ และลงทะเบียนพร้อมทั้ง มีการชั่งน้ำหนัก
- ใช้น้ำหนักและ ความสูงเป็นเกณฑ์ในการเปรียบไก่
- สวมเดือยและนวม ในการแข่งขันตามมาตรฐานของสนาม
- เสริมปีกไก่ก่อนการแข่งขัน
- ใช้อุปกรณ์ ที่สนามจัดให้ในการให้น้ำ
- ไม่มีการขายหัวเย็บแผล และทางตาระหว่างพักยก
- ไม่ใช้ยาหรือสารเคมี ในข้อใดในการโด๊บถ้าตรวจ พบจะถูกปรับแพ้
- วัสดุในการแข่งขันเช่นขนไก่แยงคอ ข้าวสุก น้ำ จะต้องเป็นของสนาม
2.การแข่งขันชนไก่แบบมืออาชีพ
การแข่งขันจะเริ่มต้นเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์เป็นต้นไปจะหยุด ในวันพระและหยุดนักขัตฤกษ์ด้วยการแข่งขันจะมีกฎกติกาแบบทั่ว ๆ ไปดังนี้
- เทียบความสูงน้ำหนัก โดยนำไก่มาเปรียบ จะให้เจ้าของเป็นผู้ตัดสินใจ ในการที่จะเข้าแข่งขัน
- การแข่งขันใช้เวลาแข่งขัน ยกละ 20 นาทีพัก 20 นาทีไม่เกิน 12 อันหรือ 12 ยกเรื่องระบบการตัดสิน แพ้ชนะนั้นถ้าวิ่งหนีหันหลังไม่สู้ 3 ครั้งนอนหรือมอบให้ลุกขึ้นสู้ไม่ถือว่าแพ้
- การให้คะแนนโดยคณะกรรมการนั้นจะเป็น คนให้คะแนนโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ กดให้คะแนนตั้งแต่ยุคที่ 4 ตีถูกคู่ต่อสู้ชัดเจน 1 คะแนนกรรมการใน 3 ให้จึงจะได้คะแนน
ไก่ชนไทย ไก่ชนพม่า เป็นพันธุ์ไก่ชนที่มีชื่อเสียงและสร้างรายได้ให้เป็น ไก่ชนเงินล้าน มีชั้นเชิงในการต่อสู้
ไก่ชนไทย นั้นเป็นไก่ที่มีลีลาแพรวพราว ในการใช้ฝีตีนซึ่งจะหาชนได้ไม่เหมือนใคร ทั้งชั้นเชิงในการ กอดขี่ บดบี้ ล็อก เท้าหุ่น ตีตัว มุดลอดทะลุขา เมื่อนำไปเปรียบกับไก่ในประเทศอื่น ถือว่าไก่ชนชาติไทยนั้นมีการต่อสู้ ที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์และปรากฏการณ์ นั้นให้เกิดขึ้นซึ่งเป็นไก่ของสมเด็จพระนเรศวรในพงศาวดารไก่พันธุ์เหลืองหางขาว ในได้นำไปชนซึ่งไปชนลักษณะ นี้มีลักษณะพิเศษที่มีความเฉลียวฉลาด ในการที่จะมีไหวพริบใน การต่อสู้และได้รับชัยชนะกลับมาพร้อมสมญานาม ว่าเป็น ” ไก่เจ้าเลี้ยง ″
ซึ่งจังหวัดพิษณุโลก ได้ศึกษาค้นคว้าและส่งเสริมประเพณี ในการเลี้ยงไก่ชนเป็นการอนุรักษ์ และสนับสนุนการพัฒนาพันธุ์ไก่ชน ให้มีความคงอยู่คู่เป็นสมบัติของชาติตลอดไปดังนั้น การที่นำไก่ชนมาเลี้ยงจะต้องมี การพัฒนาสายพันธุ์ตั้งแต่การนำมาเลี้ยง ของสีเปลือกไข่จนมีสีน้ำตาลอ่อน ส่วนสีของลูกเจี๊ยบนั้นจะต้องมีขนหัวขนคอขาวหางดำปีก ในสีดำปีกนอกสีขาวหน้าท้อง มีสีขาวและหน้าคอซึ่งไก่สายพันธุ์นี้จะ มีการพัฒนาสายพันธุ์และบันทึกไว้ให้เป็นไก่ประวัติศาสตร์และ รวบรวมพันธุ์สายพันธุ์ต่าง ๆ ที่สามารถผลิตได้มาเป็นสายพันธุ์ ไก่ชนพันธุ์ดี ซึ่งมีความทนทานต่อสภาพอากาศและโรค
ซึ่งได้พัฒนาให้มีการวิวัฒนาการสายพันธุ์ โดยได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ ไก่พันธุ์ไทย ให้มีหลากหลายสายพันธุ์ดังนี้
1.ไก่ชนพันธุ์ทองแดงหางดำ เป็นไก่ชนสายพันธุ์แท้มีมาแต่สมัยโบราณซึ่งสร้าง ชื่อเสียงในการเอาชนะไก่พม่า ได้อย่างง่ายดาย
2.ไก่ชนพันธุ์เขียวหางดำ หรือเขียวหางดำเขียวกามีถิ่นกำเนิด มาจากภาคใต้และภาคตะวันออก ลักษณะเด่นของไก่พันธุ์นี้จะ มีลักษณะคล้ายกับประดู่หางดำ
3.ไก่ชนพันธุ์เทาหางขาว มีแหล่งกำเนิดมาจากจังหวัด ตากพนัสนิคมชลบุรีและแถบอีสาน ซึ่งไกลเท่านี้มีขนาดน้ำหนักตัวราว 3 ถึง 3.5 กิโลกรัม
4.ไก่ชนพันธุ์นกกรดหางดำ เป็นไก่พันธุ์สวยงามเด่นสง่า เป็นไก่พันธุ์ดุไม่กลัวใคร ซึ่งมีชั้นเชิงในการแข่งและมีแข้งเปล่า
5. ไก่ชนพันธุ์เขียว เลาหางขาว สมาคมพัฒนาการเลี้ยงไก่พื้นเมือง นั้นได้อนุรักษ์ไก่พันธุ์นี้ไว้พร้อมทั้ง มีการนำมาแข่งขันซึ่งมีลักษณะ ความสวยงามและสีที่มีความโดดเด่น
ไก่ชนพม่า การเลี้ยงไก่ชนพม่านั้น จะต้องมีวิธีการเลี้ยงเหมือนของไก่ไทย โดยการลงขมิ้นซึ่งจะมีการเล่น การเลี้ยงของพม่านั้นจะเริ่มแพร่หลาย ในทางภาคเหนือมีการนำสายพันธุ์มา ตีพร้อมทั้งมีการได้นำพันธุ์ที่ นิยมนั้นไปเลี้ยงในการแข่งขันอีกด้วย ซึ่งการลงขมิ้นสำหรับการแข่งขันไก่ ชนพม่า นั้นจะสร้างกล้ามเนื้อและผิวพรรณซึ่งขมิ้นนั้นจะ สามารถทำให้ผิวพรรณหนาและให้ผิวไก่ สวยขนสวยไก่เหลืองหางขาวขมิ้น จะไม่ได้ทาให้ไก่เก่งหรือ ทำให้บินได้การลงขมิ้นนั้นมีผลต่อการบินของไก่ว่าจะบินดี หรือไม่ดีนั้นไม่ได้เกี่ยวแต่ขึ้นอยู่ กับการฝึกซ้อมไก่มากกว่า
ดังนั้นการเลี้ยงไก่พันธุ์ไทย หรือไก่พม่าจะต้องลงขมิ้น ไม่ลงแล้วแต่คนที่ชอบจะไม่มีผลใน การแข่งขันและสำคัญว่าจะต้องลงให้มากเกินไปจะทำให้เนื้อผิวไก่มันตึงรูปไก่ที่ผสมสายเลือดพม่า นั้นจะแยกข้อดีและข้อด้อยนั้นได้ชัดเจน เพราะรูปร่างและขนาดของไก่พม่านั้นจะเป็นไก่ 100% ที่มีขนาดเล็กนิยมนำมาผสมพันธุ์ไทยบ้างเวียดนามบ้างและสายพันธุ์ของไก่พม่านั้น จะมีลักษณะที่ดูได้ง่ายสังเกตได้คือ
1. กระดูกบางมีขนาดเล็ก
2. ตาโปน
3. สนับปีกหนาและยาว
4. เหนื่อยส่ง
5. แท่งเล็ก
6. ตุ้มหูมักขาว
ลักษณะนี้จะนิยมนำมาเลี้ยง และผสมพันธุ์ในไก่พม่า ซึ่งไก่พม่านั้นมีลีลาชั้นยอดในการปะทะกับคู่ต่อสู้ โดยตรงเพราะไก่มีขนาดที่ตัวเล็กจึงสามารถที่จะสร้างจังหวะและโอกาส ที่จะต่อสู้และเป็นนักเลงไก่ โดยมีชั้นเชิงที่สามารถดูได้ดังนี้
1. ดีดแข้งเปล่ารับโดยไม่ใช้ปากกี่คู่ต่อสู้
2. เปลี่ยนหน้าตี
3. ม้าล่อ
4. เข้ามุดหัวติดดิน ลักตีขโมยตี
ไก่พม่านั้นจะมีชั้นเชิง ในการที่จะต่อสู้กับคู่ต่อสู้เพราะมีโครงสร้างเล็ก กระดูกเล็กเมื่อเทียบกับไก่ไทย แล้วเวลาตีจะมักจะสู้ไม่ได้ไก่พม่านั้นไก่หนุ่มจะไม่ค่อยเต็มร้อยติดใจมักจะถอยหนี ได้ง่ายซึ่งไก่เชิงมุดมัดหัวต่ำ สามารถที่จะปากไก่พม่าได้ ไก่พม่านั้นจะคัดเลี้ยงมา เพื่อชนจะต้องตีแม่นอันดับแรก จะต้องมีลีลาและความแข็งแกร่งในการที่จะเลี้ยงเพื่อให้มีความคล่องตัวสูงไก่พม่า นั้นจะเก่งในการฝึกซ้อมอย่างหนัก ความแข็งแรงบินดีฟอร์มกำลังสด ก็จะสามารถนำไปชนได้สิ่งสำคัญไก่พม่านั้นจะต้องเลี้ยงน้ำเย็นจะดีที่สุดเน้น การแตะเป้าลงนวมเพราะเป็นชั้นเชิงของไก่พม่า
ไก่ชน ราคา ดีมีหลายสายพันธุ์ที่นิยม ขายไก่ชน กันมักมี สายพันธุ์ไก่ชน ที่ดีมีหลายสายพันธุ์ดังนี้
สายพันธุ์ไก่ชน การเลี้ยงไก่ชนนั้นคนไทย จะรู้จักกันดีว่าเป็นสิ่งที่สืบทอด และอนุรักษ์มากันอย่างยาวนาน ซึ่งไก่ชนในอดีตจะมีอยู่ที่ภาพวาด บนฝาผนังในจังหวัดต่างๆซึ่งนิยมเลี้ยงกัน จะเห็นจุดเด่นของไก่พันธุ์เหลืองหางขาว ซึ่งบอกเล่าตามภาพเขียน มาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยสายพันธุ์ไก่ชนจะแบ่งตามสีขนตามตำราแล้วสายพันธุ์ไก่ชนที่บันทึกไว้ จะมีอยู่ 2 สายพันธุ์เป็นไก่เหลืองหางขาว และไก่ประดู่หางดำนิยมนำมาเลี้ยงเพื่อนำไว้ชนและถูกบันทึกไว้ และรวบรวมหลักฐานไว้ดังนี้
1.ไก่เหลืองหางขาว ถือเป็นไก่ชนที่เป็นสายพันธุ์ตระกูล ไก่ชนพันธุ์ใหม่ถูกกำเนิดมาในหมู่บ้าน จังหวัดพิษณุโลกซึ่งสมัยก่อนไทย ตกเป็นเมืองขึ้นของพม่าได้นำไก่ชนสายพันธุ์เหลืองหางขาว ที่มีลักษณะเด่นคือจะมีขนสร้อย เป็นสีเหลือง โคนปีกหางสีขาวปลอด หางแนบชิด สลวย ส่วนปลายหางมีสีดำ มีขนแซมเล็กน้อย 3 จุด ที่บริเวณขนหัวบริเวณท้ายทอย ปีกทั้งสองข้างและบริเวณ ข้อขาทั้งสองข้างตัวจะมีสีดำ ตลอดปีของปากจะอมสีเหลือง ซึ่งจะมีจะงอยและดวงตาสีเหลืองอ่อนใสมองเห็น เส้นเลือดชัดเจนเรียกว่า ตาปลาหมอ ไก่ตัวเมียจะมีลักษณะคล้ายตัวผู้ อาจจะดำลำตัวสีขาวปากเล็บ จะขายไก่ชนตัวผู้
2.ไก่ประดู่หางดําเป็นไก่ ที่เซียนไก่ชนนั้นยอมรับว่าเป็นพันดี ลองจากไก่เหลืองหางขาวซึ่งถิ่นกำเนิด อยู่จังหวัดฉะเชิงเทราไก่ชนตัวนี้มี ลำตัวสีดำสนิทสีของขนเป็นสีประดู่หนังบริเวณใบหน้า สีแดงดำอมแดงคล้ายกับเม็ดมะขาม ส่วนหางแนบชิดหางยาวโค้ง เป็นรูปพัดสีปากสีเล็บจะเป็นสีน้ำตาลตัวเมียตัวจะมีสีดำน้ำตาลคล้ายตัวผู้
3.ไก่สีดอกหมากหางขาว เป็นไก่พันธุ์แท้ลักษณะคล้าย กับไก่ชนสายพันธุ์นี้คือถิ่นกำเนิด มาจากภาคกลางเป็นไก่ชนตัว ผู้สีดำขนและปีกสีขาว อมเหลืองขายกับสีดอกหมาก หางยาวปลาย หางมีสีดำตัวเมียมีลักษณะคล้ายตัวผู้เช่นกัน
4.ไก่ลายข้าวตอกหรือเรียก ในจังหวัดภาคกลางว่า ไก่เบี้ย ภาคเหนือเรียกว่า ไก่ข่อย ถิ่นกำเนิดมาจากภาคเหนือ และภาคกลางมีข้อเสีย คือเป็นไก่ที่ไม่เหนียวไม่ทนออกน้ำได้ง่ายลักษณะเด่นไก่ตัวผู้จะมีขนสร้อย ต่างเป็นลายคล้ายลายของ นกกระทาสีของลำตัวจะสีลายข้าวตอกตัวเมียจะมีพื้นลำตัวเหมือนตัวผู้มีขนสร้อยเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล
5.ไก่เขียวแมลงภู่หางดำหรือเรียกว่าเขียวไก่ดำ เป็นไก่ชนพันธุ์แท้ที่มีมาแต่ในภาคใต้ ลักษณะเด่นของไก่ชนตัวผู้นั้นจะมี ขนสร้อยต่าง ๆ สีเขียวส่วนขนหูสีเขียวอมดำสีพื้นลำตัวจะเลือกมันสีดอยสีน้ำตาล อมดำนัยน์ตาสีดำอมเขียว สูงเด่นบริเวณกลางหงอน ตัวเมียสีพื้นเหมือนตัวผู้มีปลายขนสีอมเขียว
6.ไก่ทองแดงเป็นไก่ชนพันธุ์แท้ ชนิดหนึ่งที่อยู่ในแถบภาคกลาง และตะวันตกจัดเป็นไก่ชนแข้งหนัก มีลำแข้งลำคนดีตีแม่นหนักหน่วง ลักษณะเด่นลำตัวมีสีคล้ายกับตัวผู้ปัจจุบัน ไก่ชนนี้หายากเป็นสายพันธุ์ที่ผสม
7.ไก่เขียวเลาหางขาวหรือเรียกว่าไก่เราเป็นไก่ชนพันธุ์ ดั้งเดิมจังหวัดเพชรบุรีไก่ชนที่มี สร้อยต่างสีเขียวแกมขาวปลายขน สีขาวไปขนสีเขียวรวมถึงเดือนมีสีขาวอมน้ำตาลไปหางมีสีขาว
8.ไก่แดงนกกรดจะเป็นไก่ชั้นเชิงดี แต่ไม่ค่อยเหนียวอดทนจึงไม่นิยม มาเป็นไก่ชนตัวผู้ลักษณะคล้ายชุดไก่ชน หางเหลืองดังนั้นหน้าอกลาย แดงคล้ายกับคนนกกระปูดสีขนของ ปีกท่อนล่างเป็นสีแดงอม น้ำตาลหางมีรูปพัดตามีสีแดงปาก สีเล็บเดือยมีสีน้ำตาล
9.ไก่เทาเป็นไก่ที่มีชั้นเชิงดีเป็นไก่ที่ ไม่ค่อยเหนียวอดทนจะแบ่งเป็น 3 ลักษณะ คือไก่เทาหม้อลักษณะเด่นของสร้อยต่าง ๆ จะเป็นสีดำประดู่ไก่เทาขาวหรือเรียกว่าเทาขี้เถ้าลักษณะเด่นมีสีเทาไก่เทาเหลือง ลักษณะเด่นสีขนของสร้อย มีสีเหลืองเรียกเขาฤาษี
10.ไก่เหลืองโนรีลักษณะเด่น ขนสร้อยคอขนปีกมีสีเหลืองสด ส่วนสีพื้นของคนนั้นจะมีสีขาวอมเหลือง และขอบเขตสีแดงคล้ำส่วนตัวมีสีพื้นสีดำ